เคล็ดไม่ลับ ช่วยป้องกันโรค ต่อมลูกหมาก

Last updated: 7 ก.ย. 2565  |  315 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เคล็ดไม่ลับป้องกันต่อมลูกหมากโต

เคล็ดไม่ลับ ช่วยป้องกันโรค ต่อมลูกหมาก
ปัญหาของ ต่อมลูกหมาก เป็นเรื่องของ ผู้ชายโดยเฉพาะ และส่วนมาก เมื่อมีอายุมากขึ้น ผู้ชายเกือบทุกคน จะมีปัญหาเกี่ยวกับ ต่อมลูกหมาก ทั้งสิ้น

ต่อมลูกหมาก อยู่ตรงไหน
ต่อมลูกหมาก จะอยู่ล้อมรอบ ฐานของกระเพาะปัสสาวะ มีขนาดเท่ากับมะนาวลูกเล็กๆ สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ ได้ 3 ประการคือ ต่อมลูกหมากอักเสบ ต่อมลูกหมากโต และ มะเร็งต่อมลูกหมาก

อาการที่เกี่ยวข้องกับต่อมลูกหมาก
เนื่องจาก ต่อมลูกหมาก อยู่ลึกมาก และ มองไม่เห็น เวลา ต่อมลูกหมาก มีปัญหา จึงสังเกตได้ยากกว่าปัญหา ของอวัยวะอื่น ผู้ชายทุกคน จึงต้องควรรู้ไว้ก่อน ว่าอาการที่จะเกิดขึ้นกับ ต่อมลูกหมาก มีอะไรบ้าง จะได้ไปตรวจหาสาเหตุของโรคเพื่อดูแลรักษาได้อย่างตรงจุด

อาการเจ็บ หรือ ระคายเคือง บริเวณท้องน้อยส่วนล่าง อาจจะเกิดจาก ต่อมลูกหมากอักเสบ ต่อมลูกหมากโต แล้วเกิดอักเสบ แต่อาการอื่นที่จะบ่งบอกว่า ต่อมลูกหมาก กำลังมีปัญหา มีดังต่อไปนี้คือ
 ปัสสาวะมากโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
 ปัสสาวะไม่เป็นสาย
 ปัสสาวะไม่พุ่ง
 ปัสสาวะบ่อย รู้สึกว่ากระเพาะปัสสาวะเต็มอีกแล้วทั้งๆ ที่เพิ่งปัสสาวะ
 ปัสสาวะสะดุด เมื่อปัสสาวะสุดแล้วยังมีปัสสาวะหยดออกมาอีก
 กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่
 ปัสสาวะออกมามีเลือดปน เมื่อหลั่งน้ำอสุจิแล้วรู้สึกเจ็บ
 ปัสสาวะแสบหรือรู้สึกระคายเคือง เจ็บบริเวณหัวเหน่า
 ปวดหลังและบริเวณสะโพกเรื้อรัง
 ปวดอัณฑะหรืออัณฑะบวม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม มะเร็งต่อมลูกหมาก ในระยะแรกนั้น แทบจะไม่มีอาการแสดงอะไรเลย หากมีอาการชัดเจนแล้ว จะเห็นความผิดปกติได้ชัด เช่น เลือดออก เป็นต้น แปลว่าเป็น อาการระยะท้าย ซึ่งจะรักษายาก ดังนั้นผู้ชายวัย 45 ปีขึ้นไปควรตรวจเช็ค ต่อมลูกหมาก และตรวจเลือดหาค่าของ PSA เป็นประจำ
ควรรู้ไว้ว่า ผู้ชายอายุ 60-70 ปี จำนวนครึ่งหนึ่งที่จะมีต่อมลูกหมากโต และผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปจำนวน 70% ที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก

อะไรบ้างเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคของ ต่อมลูกหมาก

1. กรรมพันธุ์
ใครก็ตามที่มีญาติสายตรงม ีต่อมลูกหมากโต หรือเป็น มะเร็งต่อมลูกหมาก โอกาสที่จะเป็นโรคดังกล่าวมีมากกว่า และมักจะเป็นโรคเกี่ยวกับ ต่อมลูกหมากโต เมื่ออายุยังน้อย

2. อาหาร
มีหลักฐานแน่นอนว่า หากกินอาหารไขมันสูงเกินไป อาหารแคลอรี่สูงเกินไป จะทำให้เพิ่มอัตราเสี่ยงของ มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็น 2 เท่าของคนที่กินไขมันน้อยกว่า หรือคนที่กินอาหารปริมาณน้อยกว่า ดังนั้นอาหารไทยแท้ๆ ประเภทแกงส้ม ต้มยำ น้ำพริก จะดีกว่าอาหารมันๆ แบบอาหารฝรั่งหรืออาหารจีน
มีหลักฐานว่า ถั่วเหลือง และ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เต้าหู้ น้ำเต้าหู้เป็นต้น ผักสดและผลไม้สด สามารถลดอัตราเสี่ยงของ มะเร็งต่อมลูกหมาก ลง

3. กิจกรรมทางเพศ
ใครก็ตามที่เคยมีประวัติ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มาก่อน จะมีโอกาสเป็น มะเร็งต่อมลูกหมาก ประมาณ 2 เท่า มีรายงานในอเมริกาว่า หากมีคู่นอนหลายคน ก็จะมีโอกาสป่วยด้วย มะเร็งต่อมลูกหมาก มากกว่า

4. บุหรี่
เป็นที่แน่นอนว่า คนที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็น มะเร็งต่อมลูกหมาก มากกว่าคนไม่สูบบุหรี่ถึง 3 เท่า

5. ฮอร์โมน
โดยเฉพาะฮอร์โมน DHEA ( DEHYDROEPIANDROSTERONE ) ซึ่งนิยมใช้เพื่อชะลอความชรา ใช้เผาผลาญไขมัน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มภูมิต้านทาน ใช้รักษาอัลไซม์เมอร์ และพาร์กินสันในบางราย ฮอร์โมนดังกล่าวจะทำให้ ต่อมลูกหมากบวม และโตขึ้น และคาดว่าน่าจะเพิ่มอัตราเสี่ยงของ มะเร็งต่อมลูกหมาก
ดังนั้นหากไม่อยากเป็นโรคของ ต่อมลูกหมาก ควรเลี่ยงปัจจัยดังที่กล่าวมา

วิธีป้องกันโรคของ ต่อมลูกหมากโต
การป้องกันโรคของ ต่อมลูกหมาก มีความจำเป็นสำหรับผู้ชายที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวป่วยด้วยโรคนี้ และยังจำเป็นสำหรับผู้ชายทุกคนที่อยู่ในวัยใกล้ 60 ปีหรือมากกว่า


มาตรการป้องกัน ต่อมลูกหมากโต และ มะเร็งต่อมลูกหมาก ไม่ได้แตกต่างไปจากการดูแลตัวเองด้วยธรรมชาติบำบัดอื่นๆ แต่อย่างใด มันคือการปรับอาหาร และเปลี่ยนพฤติกรรม

1. อาหาร
นอกจากเลี่ยงการกินอาหารที่มากเกินแล้ว ต้องเลี่ยงอาหารไขมันสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นมวัว เนย และผลิตภัณฑ์จากนมวัวทุกชนิดซึ่งมีรายงานชัดเจนว่านมวัวเป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงของ มะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ ครีมเทียม กะทิ ข้าวมันไก่ ขาหมู ฯลฯ ก็จำเป็นต้องเลี่ยงด้วย
สำหรับเครื่องดื่มที่ต้องระวังคือ แอลกอฮอล์ เนื่องจาก แอลกอฮอล์ ทำให้ ต่อมลูกหมากบวม นั่นเอง ใครก็ตามที่มี ต่อมลูกหมากโต แล้วจำเป็นต้องงดแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด โดยทั่วไปแล้วแอลกอฮอล์กินได้ไม่มากนักหรอก อย่างไวน์ก็วันละเพียง 30-50 ซีซี วิสกี้บรั่นดี 15 ซีซี ไลท์เบียร์ 1 กระป๋อง เพียงปริมาณนี้เท่านั้น จึงจะไม่กระทบกระเทือนต่อ ต่อมลูกหมาก
อาหารในชีวิตประจำวันควรเป็นข้าวกล้องทุกมื้อ ผักสดและผลไม้สดปริมาณมากพอ ได้แก่ ผักสด 2 จานเล็ก ผลไม้สดขนาดเท่ากับแอบเปิล 2 ลูก และน้ำผลไม้คั้นสด ๆ 200 ซีซี

อาหารที่แนะนำ เนื่องจากพบว่ามีสารอาหารบางตัวที่สามารถต้าน มะเร็งต่อมลูกหมาก ได้ ได้แก่
●มะเขือเทศ
เนื่องจากมะเขือเทศ และผลิตภัณฑ์จาก มะเขือเทศ ทุกชนิดมี ไลโคปีน ซึ่งเป็นสีแดงใน มะเขือเทศ มีบทบาทเป็นสารต้านอนุมูลอิสระฤทธิ์แรง ป้องกันกระบวนการเสื่อมของเซลล์ ต่อมลูกหมาก ได้ดี มี
รายงานว่าไลโคปีนสามารถป้องกัน มะเร็งต่อมลูกหมาก ได้ ดูเหมือนว่ามะเขือเทศสุกเช่น น้ำมะเขือเทศ ซุปมะเขือเทศ จะดีกว่ามะเขือเทศสด เนื่องจากการทำให้สุก ทำให้ไลโคปีนถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่า
นอกจากนี้ไลโคปีนในมะเขือเทศยังสามารถลดอัตราเสี่ยงของ มะเร็งลำไส้ใหญ่ เต้านม ปอด และมะเร็งกระเพาะอาหารได้ด้วย เรายังสามารถหาไลโคปีนได้จากผลไม้อื่น ๆ ได้แก่ แตงโม ฝรั่ง และสับปะรด

● ถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์จาก ถั่วเหลือง
ในถั่วเหลืองมีสารไอโซฟลาโวนซึ่งสามารถปรับสมดุล ของฮอร์โมนเพศ ในร่างกายสู่สมดุล เนื่องจากเรารู้ว่า ฮอร์โมนเพศเทสโตสเตอโรนกระตุ้นให้เกิด ต่อมลูกหมากโต และ มะเร็งต่อมลูกหมาก ไอโซฟลาโวนทำให้การกระตุ้นของเทสโตสเตอโรนน้อยลงจึงสามารถลดอัตราเสี่ยงของ โรคต่อมลูกหมาก
ในเอเซีย ประเทศที่กินถั่วเหลืองเป็นประจำเช่นจีนกับญี่ปุ่น พบว่าสถิติการป่วยด้วยโรคของ ต่อมลูกหมาก น้อยกว่าประเทศในแถบอื่นมาก

● ชาเขียว
ชาเขียวมี EGCG ( EPIGALLOCATECHINGALLATE ) ซึ่งต้านการเติบโตของ เซลล์มะเร็ง มีรายงานว่าสารสะกัดจากชาเขียวเข้มข้นสามารถกระทั่งฆ่า เซลล์มะเร็งของต่อมลูกหมาก ได้ หมายความว่าจะต้องกินสารสะกัด EGCG เป็นเม็ด ไม่ใช้แค่ดื่มชาเขียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในรายที่เป็น มะเร็งต่อมลูกหมาก ในระยะท้ายที่ไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนแล้ว จะใช้ EGCG ไม่ได้ผล

● กระหล่ำและพืชตระกูลกระหล่ำ
ได้แก่ กระหล่ำดอก กระหล่ำปลี กระหล่ำปลีสีม่วง กระหล่ำดาว บร็อคโคลี่ ผักกาดฮ่องเต้ รวมไปถึงหัวผักกาดด้วย เหล่านี้มีสารตั้งต้นของกลูตาไทโอน สามารถกระตุ้นการขับสารพิษของตับ และต้าน มะเร็ง ได้หลายตัวรวมทั้ง มะเร็งต่อมลูกหมาก

● กระเทียม
เนื่องจากมีรายงานว่าในท้องที่ซึ่งกิน กระเทียม กันมากมีสถิติการป่วยด้วย มะเร็งต่อมลูกหมาก น้อยกว่า ว่ากันว่ากระเทียมมีกำมะถันสูง และนี่เองที่สามารถทำให้กระเทียมป้องกัน มะเร็งต่อมลูกหมาก ได้

● เมล็ดฟักทอง
มีสังกะสีสูง สังกะสีที่มากพอจะช่วยป้องกัน โรคของต่อมลูกหมาก ได้ดี รวมทั้งป้องกัน มะเร็งต่อมลูกหมาก ด้วย สมัยโบราณ หมอยาไทยแนะนำให้คนที่ปัสสาวะลำบากจาก ต่อมลูกหมากโต กินเมล็ดฟักทอง วันละ 60 เมล็ดเพื่อแก้อาการนี้

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกาย จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทั่วร่างกาย ทำให้ภูมิต้านทานโดยรวมดีขึ้น รวมทั้งช่วยคลายเครียด การออกกำลังกายที่ถูกต้องจะช่วยทำให้สารเอนดอร์ฟินส์หลั่ง ทำให้เกิดอาการปิติ สบายเนื้อตัว และช่วยป้องกัน มะเร็ง โดยทั่วไป รวมทั้ง มะเร็งต่อมลูกหมาก ด้วย
การออกกำลังกายที่ดี จะต้องออกแรงมากพอ คือใช้ความสามารถทั้งหมด 60% ออกกำลังกายครั้งละนานกว่า 30 นาทีขึ้นไป และที่สำคัญกว่าคือต้องสม่ำเสมอ เช่นสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเป็นอย่างน้อย

วิธีการออกกำลังกายนั้น แล้วแต่ถนัดได้แก่ เดิน เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เดินในน้ำ เต้นแอโรบิก แอโรบิกในน้ำ เต้นรำ เล่นเทนนิส เดินป่า ตีกอล์ฟ เป็นต้น
นอกจากนี้ การออกกำลังกายแบบตะวันออกจะช่วยได้มาก เช่นไท้เก็ก ชี่กง โยคะ ซึ่งหากทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายโดยทั่วไปจะช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แข็งแกร่งขึ้น

3.คลายเครียดและสมาธิ
เนื่องจาก โรคของต่อมลูกหมาก เกิดกับผู้ชายวัยเกษียณเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมักจะเป็นวัยเปลี่ยนแปลงของผู้ชาย จนกระทั่งกล่าวกันว่าเป็น “วัยทอง” ของเพศชาย
การปรับตัวในวัยนี้มีความจำเป็น วิธีคลายเครียดยิ่งมีความจำเป็น เพื่อสุขภาพ โดยรวมและสุขภาพ ต่อมลูกหมาก การหางานอดิเรกที่ไม่เครียดทำ ใช้เสียงเพลง การฝึกสมาธิ การสวดมนตร์ ล้วนมีผลต่อจิตสงบทั้งสิ้น

4. วิตามินและอาหารเสริม
สังกะสี วันละ 50-100 มก.
เซเลเนียม วันละ 200 ไมโครกรัม
เบต้าแคโรทีน วันละ 18-36 มก.
วิตามินซีชีวภาพ วันละ 4000 มก.
วิตามินอี วันละ 800 หน่วยสากล

5.อาหารเสริม HASHI-P-FLOW
ช่วยป้องกัน ดูแลรักษา อาการ ต่อมลูกหมากโต ด้วยนวัตกรรมอาหารเสริม HASHI-P-FLOW ช่วยแก้อาการ ต่อมลูกหมากโต ปัสสาวะกระปิดกระปอย ปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะติดขัด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่พุ่ง ต่อมลูกหมากโต

ซึ่งทั้งหมดนี้หาได้จากอาหารที่แนะนำเอาไว้แล้วข้างต้น หากกินอาหารให้ครบส่วนแล้วก็อาจจะไม่จำเป็นต้องไปหาหมอกินยา ไม่ต้องผ่าตัดเลย

รับข่าวสารก่อนใครคลิกเลย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้